วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า

หลายอาทิตย์ก่อนได้เข้าไปดูเว็บเด็กเทพศิรินทร์ร่มเกล้า ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าสมัยเราเรียนม.ปลาย ได้เข้าไปทักทายด้วยความสงสัยว่าใครทำเว็บ แต่ก็คุ้นๆว่าชื่อนี้เคยรู้จัก แต่พอได้เห็นรูปเต็มๆ ถึงบ้างอ้อเลย เพราะครูเล็ก ก็คือพี่เล็กที่เรารู้จักเป็นอย่างดีสมัยที่เราพักที่หอพักข้างโรงเรียน
พี่เล็กเองก็ดีใจส่งข้อมูลอาจารย์หลายๆท่านให้รับทราบ และมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ไม่เจอกันเลยตั้งแต่จบมา ตอนนี้เป็นทหารเรือ ยศพันโท นามว่าธารินทร์ หรือไอ้ป๊อบเพื่อนซี้จากห้อง 6/3
ได้พูดคุยกับ อ.ศิริกุล ซึ่งสมัยที่เราเรียน อาจารย์จะเป็นคนคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อ เรื่องอาชีพ อาจารย์จะดูแลเรายังกะลูกเลยล่ะ เราก็รักท่านเหมือนแม่ เพราะเข้ามากรุงเทพฯตั้งแต่อายุ 12 ขวบ อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ต้องดิ้นรนเอง และอาจารย์อีกท่านที่ลืมไม่ได้เลย คือ อ.วิทยา ท่านรับเป็นผู้ปกครองให้ตั้งแต่ ม.4 เพราะแม่อยู่บ้านนอกไปมาไม่สะดวก
จนเราเรียนจบจากที่นั่น นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ 20 ปีพอดี แต่ที่เราภูมิใจในความเป็นลูกแม่รำเพยมากก็คือ ตอนนี้โรงเรียนเก่าเราขยายสาขาทั่วประเทศแล้ว 10 แห่ง .... โอ้วววววววววว แม่เจ้า

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ฝัน..ที่แบ่งปัน

น้อยใจ บทเพลงที่กลั่นจากหัวใจของลูกผู้ชายที่เจ็บปวดแสนสาหัส จากคนรักที่กลับกลาย โอม พันชา น้องชายของเราอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้จุดประกายให้ความฝันเรื่องการทำเพลงของเราเริ่มพอจะมีเชื้อไฟประทุขึ้นมาบ้าง ชีวิตของโอมเป็นชีวิตที่เรียบง่าย ซื่อๆ จริงใจกับทุกคน พูดตรงๆตามประสาคนโคราช แต่โอมเป็นคนที่มีความมานะมาก อยากรู้ อยากทำอะไรจะทุ่มเทให้จนรู้แจ้ง

หลายบทเพลงที่โอม พันชาแต่ง เราในฐานะที่เป็นพี่ชายจะเป็นคนฟังและวิจารณ์ว่างานชิ้นนี้จะไปได้ไหม เก้าสิบเปอร์เซ็นของเพลงที่โอม แต่ง เราขอบอกว่าโดนทุกเพลง ฝีมือการแต่งเพลงไม่น้อยหน้าไปกว่าอาจารย์ท่านใด๋ แต่โอมไม่กล้าเทียบหรอก เพราะโอมเป็นคิดว่าตัวเองยังเด็ก แต่สำหรับเรา คนฟังเพลง การันตีได้เลยว่า อนาคตในงานดนตรีของน้องชายเราคนนี้ไปได้อีกยาวไกลแน่

อยากให้ได้ฟังเพลงแรกที่เรากับโอมร่วมกันถ่ายทอดผ่าน MV ที่ถูกที่สุด ใช้เวลาถ่ายทำน้อยที่สุดแค่สองชม.เองรวมตัดต่อ ด้วยกล้องดิจิตอลราคาพันกว่าบาท นั่นคือจุดเริ่มต้นของความฝันของน้องเรา และตัวเรา เพลงน้อยใจได้ปล่อยลงใน YOUTUBE มีคนเข้าไปดู ไปโหลดพอสมควรทำให้เราดีใจกับน้องชายของเราคนนี้ และนี่เองคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Myhome Record ได้เห็นแววของเด็กคนนี้

ขอฝากน้องชายคนนี้ไว้ด้วยนะครับ โอม พันชา

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ด้วยแรงฝัน



เพลง: ด้วยแรงฝัน

คำร้อง/ทำนอง : อุทัยทิพย์

จากบ้านนามาด้วยความฝันเต็มหัวใจ มาอยู่แดนไกลมาขายแรงแรกเงิน ทั้งเหนื่อยทั้งอดทั้งเหน็บหนาวเหลือเกิน สู้บนทางเดินที่มีความหวังเฝ้ารอ

ขออยู่ห่างเจ้าแค่เพียงสองสามปี นับจากวันนี้ขอให้เจ้าเฝ้าคอย เก็บความสัตย์ซื่อ เพื่อรักเรานะเนื้อกลอย วันที่เจ้ารอคอย คือวันเราสุขสมปอง

จะอด..จะทน และมุ่งมั่นฟันฝ่า ด้วยแรงศรัทธาใจความรักของสองเรา สองมือจะสู้แม้งานจะหนักหรือเบา ขอเพียงแต่เจ้า...ไม่หันเหปันใจ

อีกไม่นานปลายฝันที่เฝ้ารอ ใกล้เข้ามาแล้วหนอพอมองเห็นเส้นชัย ด้วยสองมือพี่ ที่มีเจ้าเป็นแรงใจ อุปสรรคน้อยใหญ่ ฝ่ามาแล้วครึ่งทาง

เมื่อถึงวันนั้นฉันจะไม่ไปไหน จะขออยู่เคียงกายคอยปลอบประโลม จะสุขจะทุกข์จะหวานมันหรือขื่นขม ก็ถือว่าพรหม ท่านลิขิตให้เป็นไป

...................................................................................

เราแต่งเพลงนี้ตอนมาอยู่เกาหลี และเป็นเพลงแรกที่เราแต่งจบ เพราะมันเป็นความฝันอีกฝันหนึ่งของเรา เราดีใจที่หลายคนได้ฟังเพลงนี้แล้วน้ำตาซึม โดยเฉพาะคนที่มาทำงานที่ต่างประเทศ หัวอกเดียวกัน คือจะอย่างไรต้องทนให้ถึงที่สุด เพราะเรามีฝันรออยู่บ้าน

ตอนแรกว่าจะทำมิวสิคดีๆให้ดูแต่ไม่มีเวลาเลยทำแค่พอให้ได้ฟังเพลงเอาไว้เราว่างเราจะถ่ายทำมาให้ดูแบบเต็มรูปแบบ

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เขาคือ..ฝันของเรา



วันที่เขาลืมตาขึ้นมาบนโลก...ความรู้สึกของเราคือผู้ยิ่งใหญ่ เพราะต่อแต่นี้ไปเขา..คือชีวิตใหม่ของเรา เขาเป็นคนมาเติมเต็มฝันของเรา แต่กว่าเขาจะลืมตาออกมาดูโลกได้ เราลุ้นแทบแย่ เฝ้ามองดูความเจ็บปวดทรมานของแม่ของเขาอยู่ข้างเตียงตลอดเวลา

เราเพิ่งรู้ซึ้งในขณะนั้นเองว่า คำว่าแม่...ยิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งมวลที่มีในโลกมนุษย์ แม่คือคนที่อดทนสูงสุด ในวันที่เขาจะลืมตาออกมาดูโลก แม่มีความเป็นกับความตายเท่ากัน เราได้แต่กุมมือแม่เขาไว้ คอยให้กำลังใจตลอดเวลา เพราะเขาคลอดยากมาก ต้องย้ายไปคลอดที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดจึงคลอดได้

ไม่ต้องแปลกใจหรอก เราจะรักเขาแค่ไหน ในมุมกลับกันพ่อแม่เราก็ไม่น้อยกว่าเราเลย ทุกอย่างที่พ่อแม่ให้เรา เราก็จะให้เขาไม่ด้อยไปกว่ากัน ไม่ว่าการเลี้ยงดู การให้การศึกษา การให้ความอบอุ่น และพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ลูกของเราเป็นคนดีของสังคม เป็นคนมีเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ เขาไม่ต้องเป็นคนเก่งที่เลิศเลอ เราต้องการแค่ให้เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบก็พอ เป็นคนมีน้ำใจก็พอ เพราะการที่เราจะปลูกฝังให้เขาเป็นคนเก่งกว่าคนอื่นนั่นย่อมปลูกฝังให้ลูกของเราเป็นคนเห็นแก่ตัว ความผูกพันธ์มันจะน้อยลงไปทันที และสิ่งที่เราทำทุกวันนี้ ก็เพื่อเขาทั้งนั้น

ขอเพียงให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ไม่เห็นแก่ตัว มีความเมตตาเป็นที่ตั้ง ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า ไม่ว่าเขาจะทำอาชีพอะไร เรารักเขาตลอดเวลา เราจะเฝ้าดูฝันของเราไปจนกว่าเราจะหมดลมหายใจ

ดุเหว่าหลงรัง

เมื่อวันที่คนไทยเราเกิดความแตกแยกมากที่สุดเมื่อพฤษภาคม 2553 ที่ผ่านเรา เราเองที่เป็นคนไทยคนหนึ่งรู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน ทำไมนะคนไทยเราจึงเปลี่ยนกันได้มากขนาดเพราะ ...เงิน .... เพียงตัวเดียว แล้วความพอเพียงที่พ่อเราตรัสไว้ล่ะ มีใครใส่ใจมั่ง ทุกคนแสวงหาความสะดวกสบายใส่ตัว ด้วยความเห็นแก่ตัวของตัวเอง จนลืมคิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่น

มันน่าเศร้ามาก น่าเศร้าเหลือเกิน และน่ากลัวมากสำหรับความคิดที่พวกเขานำมาใส่หัวประชาชนที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย อยากให้ฟังเพลงนี้แล้วย้อนคิดสักหน่อยก็คงดี เรารักชาติ ศาสน์ และพ่อหลวงของเรา ทำไมเราไม่ทำสิ่งดีเพื่อท่านบ้างล่ะ อย่าลืมว่าเราคือคนไทย มีความเป็นอยู่ มีเอกราชมาจนทุกวันเพราะใคร อย่าให้เงินของใครบางคนมาทำให้คุณเป็นอสูรกายเลย ขอร้องล่ะ