วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เดินตามฝัน

เป็นเวลานานพอสมควร ที่ผมคนล่าฝันคนนี้ไม่ได้บันทึกฝันหรือเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมบ้าง นั่นคงเป็นเพราะงานและหน้าที่ที่หนักอึ้งรอการสะสางอยู่ วันนี้ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว สิ่งที่ผมตามหาบางอย่างก็กำลังเริ่มก่อร่าง บางอย่างก็เป็นรูปเป็นร่าง บางอย่างก็สำเร็จ และแม้กระทั่งฝันใหม่ๆที่กำลังก่อตัว ก้กำลังได้รับการปฏิบัติ เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี

วันนี้ ผมมีฝันดีๆที่หลายคนอยากสัมผัส มันเป็นฝันที่เพื่อนผมเป็นคนก่อ และผมขอเดินตาม ฝันที่ว่านี้คือการได้ทำงานสารคดีทีวี......
แล้วผมจะเล่าให้ฟัง

 

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ฝันก่อนนอน



วันนี้เลิกงานกะดึกมาด้วยความเพลีย อากาศหนาวเย็นก็ยังไม่จางหาย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ เสื้อกันหนาวตัวหนาๆ ใหญ่ๆ ถุงมือที่ให้ความอบอุ่นได้เต็มที่


ข้ามทางม้าลายมานึกได้เลยหยิบกล้องจากโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายบรรยากาศเส้นทางก่อนกลับห้องพักมาฝากัน ด้วยจักรยานคู่ชีพ (จักรยานแก่นหล่อน) ปั่นไปเสียงอี๊ดอ๊าดๆ ได้อารมณ์ดีจริง ทุกอย่างดังหมดยกเว้นกระดิ่ง..... (ฮา)


ปั่นไปก็นึกไปเรื่อยว่า กลับบ้านไปนี้จะเริ่มดำเนินฝันอะไรก่อนดีน้อ...คิดไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่ดูรถสวนมาเลยไทยเอ๊ย.... เอาไว้คิดได้ว่าจะทำอะไรก่อนจะมาเล่าให้ฟังล่ะกัน ตอนนี้ง่วงมากกกกกกกกกกกกกกกก

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ฝันที่ยังต้องตามหา



อากาศเย็นยะเยือก ทำให้ฝันหลายๆอย่างหยุดชะงักเหมือนกัน เพราะความหนาวเหน็บทำให้เราไม่สามารถออกไปไหนได้ ได้แต่เพียงคุดคู้อยู่ในผ้าห่ม และตาเหลือบมองจอคอมพิวเตอร์


หลายเดือนแห่งความเหน็บหนาวที่ผ่านมา นอกจากงานแล้ว ก็ยังพอได้พบปะได้พูดคุยกับพี่ๆน้องๆหลายคนเหมือนกัน อย่างเพื่อนรัก พิทักษ์ ใจบุญ ซึ่งไม่เจอกันมานานมากก็ได้มีโอกาสคุยกันบ้าง ลุงโอ่ง พี่ชายที่แสนดีจากบางปะอิน ก็เริ่มจะมีฝันเหมือนกัน น้องโอม ซึ่งตอนนี้กำลังขมักเขม้นในการทำงานเพลงอัลบั้มแรกของเขาอยู่ ก็ขอให้น้องประสบความสำเร็จ เพราะน้องเขามีพรสวรรค์ในการแต่งเพลงมาก ไว้รอฟังกัน


ในแวดวงเฟสบุ๊คก็คึกคักไม่แพ้กันได้เจอพี่เล็ก (ครูเล็ก) น้องแตงโม และอีกหลายคน ก็มีความสุขไปอีกทาง ส่วนทางแคมฟรอก ห่างหายไปเลยเหมือนกัน ไม่ค่อยได้เล่นคงจะเลยวัยไปแล้วมั้ง

ยังมีอีกคนที่ยังคิดถึงกันอยู่ ก็นายสุดเขตเสลดเป็ดเพื่อนรักอีกคนจากค่ายคิวค่อน ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะเพื่อนยังสบายดีอยู่ใช่ปะ วันนี้มีภาพซากุระก่อนจะบานมาฝากกัน อีกสามวันดอกซากุระจะบานสะพรั่ง


วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รักเธอ..คิดถึงเธอ

เพลงจากแรงบันดาลใจของคนที่ไกลห่าง อีกผลงานเพลงใหม่ของน้องชายที่ชื่อ โอม พันชา

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า

หลายอาทิตย์ก่อนได้เข้าไปดูเว็บเด็กเทพศิรินทร์ร่มเกล้า ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าสมัยเราเรียนม.ปลาย ได้เข้าไปทักทายด้วยความสงสัยว่าใครทำเว็บ แต่ก็คุ้นๆว่าชื่อนี้เคยรู้จัก แต่พอได้เห็นรูปเต็มๆ ถึงบ้างอ้อเลย เพราะครูเล็ก ก็คือพี่เล็กที่เรารู้จักเป็นอย่างดีสมัยที่เราพักที่หอพักข้างโรงเรียน
พี่เล็กเองก็ดีใจส่งข้อมูลอาจารย์หลายๆท่านให้รับทราบ และมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ไม่เจอกันเลยตั้งแต่จบมา ตอนนี้เป็นทหารเรือ ยศพันโท นามว่าธารินทร์ หรือไอ้ป๊อบเพื่อนซี้จากห้อง 6/3
ได้พูดคุยกับ อ.ศิริกุล ซึ่งสมัยที่เราเรียน อาจารย์จะเป็นคนคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อ เรื่องอาชีพ อาจารย์จะดูแลเรายังกะลูกเลยล่ะ เราก็รักท่านเหมือนแม่ เพราะเข้ามากรุงเทพฯตั้งแต่อายุ 12 ขวบ อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ต้องดิ้นรนเอง และอาจารย์อีกท่านที่ลืมไม่ได้เลย คือ อ.วิทยา ท่านรับเป็นผู้ปกครองให้ตั้งแต่ ม.4 เพราะแม่อยู่บ้านนอกไปมาไม่สะดวก
จนเราเรียนจบจากที่นั่น นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ 20 ปีพอดี แต่ที่เราภูมิใจในความเป็นลูกแม่รำเพยมากก็คือ ตอนนี้โรงเรียนเก่าเราขยายสาขาทั่วประเทศแล้ว 10 แห่ง .... โอ้วววววววววว แม่เจ้า

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ฝัน..ที่แบ่งปัน

น้อยใจ บทเพลงที่กลั่นจากหัวใจของลูกผู้ชายที่เจ็บปวดแสนสาหัส จากคนรักที่กลับกลาย โอม พันชา น้องชายของเราอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้จุดประกายให้ความฝันเรื่องการทำเพลงของเราเริ่มพอจะมีเชื้อไฟประทุขึ้นมาบ้าง ชีวิตของโอมเป็นชีวิตที่เรียบง่าย ซื่อๆ จริงใจกับทุกคน พูดตรงๆตามประสาคนโคราช แต่โอมเป็นคนที่มีความมานะมาก อยากรู้ อยากทำอะไรจะทุ่มเทให้จนรู้แจ้ง

หลายบทเพลงที่โอม พันชาแต่ง เราในฐานะที่เป็นพี่ชายจะเป็นคนฟังและวิจารณ์ว่างานชิ้นนี้จะไปได้ไหม เก้าสิบเปอร์เซ็นของเพลงที่โอม แต่ง เราขอบอกว่าโดนทุกเพลง ฝีมือการแต่งเพลงไม่น้อยหน้าไปกว่าอาจารย์ท่านใด๋ แต่โอมไม่กล้าเทียบหรอก เพราะโอมเป็นคิดว่าตัวเองยังเด็ก แต่สำหรับเรา คนฟังเพลง การันตีได้เลยว่า อนาคตในงานดนตรีของน้องชายเราคนนี้ไปได้อีกยาวไกลแน่

อยากให้ได้ฟังเพลงแรกที่เรากับโอมร่วมกันถ่ายทอดผ่าน MV ที่ถูกที่สุด ใช้เวลาถ่ายทำน้อยที่สุดแค่สองชม.เองรวมตัดต่อ ด้วยกล้องดิจิตอลราคาพันกว่าบาท นั่นคือจุดเริ่มต้นของความฝันของน้องเรา และตัวเรา เพลงน้อยใจได้ปล่อยลงใน YOUTUBE มีคนเข้าไปดู ไปโหลดพอสมควรทำให้เราดีใจกับน้องชายของเราคนนี้ และนี่เองคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Myhome Record ได้เห็นแววของเด็กคนนี้

ขอฝากน้องชายคนนี้ไว้ด้วยนะครับ โอม พันชา

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ด้วยแรงฝัน



เพลง: ด้วยแรงฝัน

คำร้อง/ทำนอง : อุทัยทิพย์

จากบ้านนามาด้วยความฝันเต็มหัวใจ มาอยู่แดนไกลมาขายแรงแรกเงิน ทั้งเหนื่อยทั้งอดทั้งเหน็บหนาวเหลือเกิน สู้บนทางเดินที่มีความหวังเฝ้ารอ

ขออยู่ห่างเจ้าแค่เพียงสองสามปี นับจากวันนี้ขอให้เจ้าเฝ้าคอย เก็บความสัตย์ซื่อ เพื่อรักเรานะเนื้อกลอย วันที่เจ้ารอคอย คือวันเราสุขสมปอง

จะอด..จะทน และมุ่งมั่นฟันฝ่า ด้วยแรงศรัทธาใจความรักของสองเรา สองมือจะสู้แม้งานจะหนักหรือเบา ขอเพียงแต่เจ้า...ไม่หันเหปันใจ

อีกไม่นานปลายฝันที่เฝ้ารอ ใกล้เข้ามาแล้วหนอพอมองเห็นเส้นชัย ด้วยสองมือพี่ ที่มีเจ้าเป็นแรงใจ อุปสรรคน้อยใหญ่ ฝ่ามาแล้วครึ่งทาง

เมื่อถึงวันนั้นฉันจะไม่ไปไหน จะขออยู่เคียงกายคอยปลอบประโลม จะสุขจะทุกข์จะหวานมันหรือขื่นขม ก็ถือว่าพรหม ท่านลิขิตให้เป็นไป

...................................................................................

เราแต่งเพลงนี้ตอนมาอยู่เกาหลี และเป็นเพลงแรกที่เราแต่งจบ เพราะมันเป็นความฝันอีกฝันหนึ่งของเรา เราดีใจที่หลายคนได้ฟังเพลงนี้แล้วน้ำตาซึม โดยเฉพาะคนที่มาทำงานที่ต่างประเทศ หัวอกเดียวกัน คือจะอย่างไรต้องทนให้ถึงที่สุด เพราะเรามีฝันรออยู่บ้าน

ตอนแรกว่าจะทำมิวสิคดีๆให้ดูแต่ไม่มีเวลาเลยทำแค่พอให้ได้ฟังเพลงเอาไว้เราว่างเราจะถ่ายทำมาให้ดูแบบเต็มรูปแบบ